วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทำไมหนูแฮมสเตอร์นอนทั้งวัน

ทำไมหนูแฮมสเตอร์นอนทั้งวัน

หนูแฮมสเตอร์สัตว์เลี้ยงชนิดนี้นั้นจะนอนในเวลากลางวันครับ แล้วก็จะตื่นขึ้นมาเล่นวิ่งเล่นในตอนกลางคืน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในธรรมชาตินั้น การออกมาหาอาหารหรือวิ่งเล่นในเวลากลางคืนจะปลอดภัยกว่าการออกมาวิ่งเล่น หรือหาอาหารในตอนกลางวันครับในธรรมชาติแล้วนั้นหนูแฮมสเตอร์จะหาโพลง อยู่ หรือขุดรู อยู่ครับ

ซึ่งในบัจจุุบันหนูแฮมสเตอร์ที่คนเลี้ยงก็จะมีลักษณะนิสัยคล้ายๆกันครับ ยกตัวอย่างเช่นหามุมเหมาะๆ









ที่เย็นๆแฮมสเตอร์ชอบนอน

เพื่อนๆสามารถลองสังเกตดูได้ครับ หรือจะทดลองดูก็ได้ครับ คือ ให้ลองนำแผ่นหินอ่อน เล็กๆ ไปวางไว้ในกรง แล้วไม่นานเจ้าหนูแฮมสก็จะมานอน บนแผ่นหินที่เรานำไปวางไว้ครับ ในตอนกลางวันนั้นหนูแฮมสเตอร์จะใช้เวลาไปกับการนอน และก็จะตื่นขึ้นมากินอาหารเป็นช่วงๆครับ

ท่านอนสุดฮา

ในเวลาที่หนูแฮมสนั้น นอนหลับ เราจะได้เห็นท่านอนที่แปลกๆของแต่ละตัว แต่ละท่า นะครับ บางตัวที่อ้วนมากๆก็อาจจะนอนแผ่ ออก นอนหงายท้อง และอื่นๆอีกมากมาย ยังไงเพื่อนๆก็ลองสังเกตดูกันนะครับ


ตื่นออกมาเล่นในเวลากลางคืน

ในเมื่อหนูแฮมสเตอร์ตื่นมาเล่นในเวลากลางคืน ในเวลานอนเพื่อนๆก็จะได้ยินเสียงวิ่งเล่นวงล้อ หรือ เสียงกัดแทะ สิ่งต่างๆ ภายในกรง สำหรับที่วิ่งบางอันนั้นเวลาที่หนูวิ่งจะมีเสียงดัง อาจจะทำให้นอนไม่หลับก็เป็นได้ครับ ยังไงเวลาซื้อที่วิ่งถ้าใครกลัว ปัญหาตรงวส่วนนี้ก็เลือกกันดีๆนะ






โดยส่วนมากแล้วนั้น หลัง เืที่ยงคืนไปแล้วถ้าเราปิดไฟนอน ลองแอบมาสังเกต พฤติกรรมของเจ้าหนูแฮมสเตอร์ก็จะเห็น ว่าเขาวิ่งไปมาในกรง หรือออกมาหาอาหารกินบ่อยๆ แต่สะหรับคนนอนดึก เจ้าหนูก็จะตื่นออกมาดึกสักหน่อย

เราควรเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์กี่ตัวดี

เราควรเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์กี่ตัวดี

เราควรจะกะประมาณดูก่อนนะครับ ว่า เรา ต้องการจะเลี้ยงกี่ตัวดี แต่สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องควรรู้ก็คือ เราต้องเลี้ยงเขาเป็นคู่เท่านั้นครับ

เพราะว่าถ้าเลี้ยงทีเดียวรวมกัน หลายๆตัวละก็กัดกันแน่ๆ ครับ ดังนั้น สิ่งแรกเลยก็ คือ ต้องเลี้่ยงเป็นคู่








เลี้ยงเพศเดียวกันเป็นคู่

การเลี้ยงเพศเดียวกันเป็นคู่ สำหรับคนที่ไม่อยากให้หนูออกลูก การเลี้ยงเพศ เดียวกันเป็นคู่นั้น ใช่ว่าหนู จะไม่กัดกันนะครับ มีเพียงหนู บางส่วนครับ ที่จะไม่กัดกันครับ ซึ่งในช่วงแรกๆ อาจจะไม่กัดกันครับ แต่พอเขาโตขึ้นไปแล้ว ก็ อาจจะกัดกันได้ เสมอ ครับ อย่างเช่นว่า



หนูตัวผู้

เมื่อเขาโตขึ้น เขา ต้องการความเป็นใหญ่ ต้องการอณาเขตพื้นที่เป็นของตัวเอง ซึ่งเพื่อนๆ บางคน ที่เลี้ยงตัวผู้มาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ ก็อาจจะไม่กัดกัน แต่พอเขาโต พอที่จะผสมพันธุ์ หรือว่า ถึงวัยเจริญพันธุ์แล้ว เขาก็ อาจจกัดกันได้






หนูตัวเมีย

ถ้าเพื่อนๆ เลี้ยงหนูตัวเมีย กับ ตัวเมียไว้ด้วยกัน การกัดกันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เหมือนกันครับ โดยตัวเมีย ที่พอถึงวัยเจริญพันธุ์นั้น จะปล่อยกลิ่นประจำตัวของ แต่ละตัวออกมา ซึ่งจากสิ่งนี้เอง เป็นปัญหาทำให้เขานั้นกัดกันได้ครับ ที่เป็นเช่นนั้นก็ เพราะว่า หนู จะใช้วิธีการจำกัน ด้วยกลิ่นครับเมื่อ เขาปล่อยกลิ่น แปลกๆ ออกมา จึงทำให้อีกตัวสับสน และก็ เป็นสาเหตุของการกัดกัน



เลี้ยงเป็นคู่ การเลี้ยงเป็นคู่นั้น

ใช่ว่าเขาจะไม่มีโอกาส ที่จะกัดกันเลย นะครับ เพราะว่า หนูบางตัว ที่เลี้ยงเป็นคู่ก็อาจจะกัดกันได้ครับ อาจจะเป็นสาเหตุมาจาก ความเครียด หรือว่า ตัวเมียท้อง หรือว่า สาเหตุอื่นๆอีก…… แต่อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงเป็นคู่นั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ และก็ มี % การกัดกัน น้อยกว่า การเลี้ยงเพศเดียวกันอีกด้วย






เมื่อเราเริ่มเลี้ยงหนู

ก่อนอื่น เราควรเลือก เลี้ยงเพียงแค่ 2 ตัวก่อนนะครับ เพราะว่า เราจะได้ศึกษา วิธีการเลี้ยง และก็จะได้ ดูแลเจ้าตัวน้อย ที่เราซื้อมานั้น ได้ทั่วถึง กว่าเลี้ยงเยอะๆ และก็ ช่วยในการประหยัด งบประมาณที่ใช้ ในการเลี้ยง อีกด้วย ครับ ซึ่งต่อไปเมื่อเราเลี้ยง จนรู้หลัก ในการ เลี้ยง แล้ว เราก็สามารถซื้อหนู มาเพิ่มหรือ เลือกซื้อหนูที่มีราคามาลองเลี้ยงดูได้



สา่ยพันธุ์ ::: Roborovskii (โรโบ)

สายพันธุ์โรโบรอฟสกี้แฮมสเตอร์

สาย พันธุ์นี้ถือเป็น สายพันธุ์ แฮมสเตอร์แคระที่เล็กที่สุดก็ว่าได้ครับ คือ โตสูงสุด มีความยาวโดยประมาณ 2 นิ้วครับ เป็นหนูที่มีขนสั้น นุ่ม ซึ่งเจ้า โรโบรอฟสกี้ นี้เป็นสัตว์พื้นเมือง ของจีน มองโกเลีย รัสเซีย แต่ในปัจจุบันนี้ ขนาด ตัวของเจ้าโรโบ ก็แตกต่างกันไปอยู่ที่ผู้ เลี้ยงสะส่วนใหญ่ครับ บางท่านเลี้ยงดี ก็อาจจะโต หรือ สมบูรณ์ หน่อยคับ ส่วนคนที่เลี้ยงไม่ค่อยดีก็อาจจะตัวเล็กแกรนครับ

เจ้า หนู โรโบรอฟสกี้นี้ เป็นหนูที่ค่อนข้าง วิ่งเร็ว ครับ เป็นสัตว์ที่แทบจะขี้ตกใจง่ายครับ แต่ก็ไม่ใช่ พันธุ์ ที่จะกัด หรือ ดุเหมือน เจ้า แคมป์เบล ครับ แต่จะไม่ได้ให้เราจับง่ายๆเหมือนดั่ง วินเทอร์ไวท์ ครับ อ่านๆอย่าพึ่งงง









ลักษณะ สีของเจ้า โรโบรอฟสกี้ นั้น

จะเป็นสีออกสีทอง สี น้ำตาล สีจะเป็นสีไล่ๆ กันระหว่าสีเข็มไปจนถึงจางๆลงไปครับ จะมีเส้นหนวด ที่ยาว ตากลมโต สีดำ ครับถ้าดูดีๆ เจ้าหนูชนิดนี้ เหมือนเป็น หนูที่มีคิ้วที่ เห็นได้ชัดเลยครับ ส่วนเรื่องสี นั้นในปัจจุบันนี้ ได้มี โรโบ หลายสีหลาย สายพันธุ์ ย่อย ลงมาครับ

อาทิเช่น

•โรโบรอฟสกี้
•โรโบรอฟสกี้หน้าขาว
•โรโบอีสเบล
•โรโบไวท์


การผสมพันธุ์


ที่จริงแล้วสามารถผสมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสีใหน แต่ขอให้เป็น โรโบเท่านั้น แต่การผสมเช่นนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยครับ เพราะจะทำให้ สีของเจ้าโรโบเพี้ยน และ สีไม่นิ่ง ที่บอกว่าสีไม่นิ่ง หรือ จะเรียกอีกอย่างว่า ยังไม่แท้ คับ ดังนั้นถ้าจะให้แน่ หรือ ถ้าจะเพาะพันธุ์เจ้าสายพันธุ์นี้หละก็ ผมแนะนำให้ ใช้สีดีเดียวกันผสมกัน ดีกวา่คับ เพื่อความเข้มข้นของสี ที่เราผสมออกมาครับ

โดยทั่้วๆไปแล้ว บางท่านก็จะบอกว่า โรโบ ออกลูกยาก แต่สำหรับ บางท่านก็อาจจะบอกว่า ไม่เห็นจะยากเลย
เจ้าโรโบ ในช่วงที่ผมเพาะเลี้ยง จะว่ายากก็ยากครับ จะว่าง่ายก็ง่าย คือ ถ้าเราสามารถทำสภาพ กรง และ สภาพแวดล้อม ให้สดวก สบาย ตามแบบที่เขาชอบได้ และ เข้าได้คู่้ที่ถูกใจ แล้ว ก็คงจะไม่ยากที่จะมีลูกๆให้เราครับ สำหรับตัวใหน ที่จับคู่แล้ว ออกลูก เดี๋ยวอีกไม่นาน ก็จะออกอีกครับ อ่อรวมไปถือ อาหารการกินด้วยครับ ทุกอย่างดีสมบูรณ์ ยังไงก็น่าจะออกลูกให้เห็นบ้างหละ







เพิ่มเติมอีกนิด

ลักษณะ ที่สามารถสังเกตได้อีกอย่างคือ บริเวณ ปาก ขา ท้อง และ ส่วนของ หาง จะเป็นสีขาวครับ คิ้วก็มีคับ จะเป็นสีขาวแต้มๆ หน่อยครับส่วน ตัวจะไม่มีลาย บาลำตัวครับ ขนด้านในก็จะเป็นสีเทาๆ


ที่อยู่อาศัย ในธรรมชาติ

จะเป็นสัตว์ ที่พบได้ แถบทะเลทราบ หรือ บริเวณที่แห้งแล้ง การสัตว์จำพวกนี้ จะใช้การขุดโพรง เป็นที่อยุ่อาศัย ครับ โดยข้างในจะเป็นรังของเขา และก็จะมีวัสดุปูพื้นอาจจะเป็น พวกเศษหญ้า และ ก็ยังเป็นที่เก็บสะสมอาหาร อีกด้วยครับ แต่ถ้าสำหรับเราแล้ว ก็ไม่ต้องเลี้ยงแบบแห้งแล้ง นะครับ เพราะว่า เจ้าโรโบที่เราเลี้ยงๆกันอยู่ ไม่ได้ เติบโตมาในธรรมชาติ ดังนั้น ความแข็งแรง หรือ ลักษณะนิสัย จะต่าง การเอาตัวรอด รวมถึง ภูมิป้องกันโรค ก็ต่างกันครับ ยังไงก็ต้องเลี้ยงดีๆ มีอาหาร น้ำ ให้ครับจะดีที่สุด


บางคนบอกว่า เจ้าโรโบกัด

อันนี้ แน่นอนครับ สัตว์ทุกชนิดย่อมกัด แต่โดยปกติ เจ้าโรโบ จะเป็นสายพันธุ์ ที่ไม่ดุนะครับ แต่ก็ต้องมีบ้างครับที่จะกัด ถ้าโดยประมาณ 100 ตัว จะเจอกัดสัก 3-5 ตัวเท่านั้นแหละคับ ไม่ได้พบเจอกันได้บ่อยๆ และอีกกรณี หนึ่งที่กัด ก็อาจจะเป็นการตกใจ หรือ เขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยครับ บางท่านอาจจะจัีบเขาแรง เกินไป เพราะสัตว์พันธุ์นี้ ค่อยข้างไว จับแบบ ประคอง คงงจับกันไม่ได้แน่ๆครับ แต่สำหรับผม ผมว่า เจ้าสายพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ ที่น่ารักอีกเช่นกัน









โรโบ อิสเบล

อิสเบล หน้าขาวๆ ไรขนชั้นในสีดำเข้ม ขนชั้นนอกจะออกเป็นโทนสีส้ม(ค่อนข้างเข้ม) ตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงก้นเลยและจะสามารถปกคลุมไรขนชั้นในที่เป็นสีดำได้หมดจากประสบการณ์ที่เลี้ยงมา ขนของอิสเบลจะมีความนุ่มสลวย และยาวกว่าโรโบธรรมดาเล็กน้อย

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับโรโบแต่ละสี เดี่ยวผมจะอธิบายให้อีกทีในหัวข้อง สีย่อยๆลงไปอีกทีนะ





จะทำอย่างไร เมื่อต้องไปต่างจังหวัด

เมื่อต้องมีงาน หรือ ต้องกลับบ้านในเทศการต่างๆ การปล่อยหนูแฮมสเตอร์อยู่ตามลำพัง จำต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งทางที่ดีแล้ว เพื่อนๆ ไม่ควรปล่อยเขาไว้นะครับ แต่ถ้าว่า มีคนรู้จัก ฝากเลี้ยงและไว้ใจได้ ก็ควรจะฝากเขาดูแลนะครับ หรือไม่ก็ ถ้าคุณมีรถ ขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัด การพาเจ้าหนูแฮมสกลับไปด้วย ก็ทำได้ครับและอาจจะ เป็นการพาหนูน้อยของคุณ ไปเที่ยวเล่น ได้อีกด้วย






ถ้าฝากเพื่อนเลี้ยงควรทำอย่างไรบ้าง

การที่เราฝากเพื่อนของเราเลี้ยงแทน ในกรณีที่ไม่อยู่บ้านประมาณ 2-3 วันอย่างแรกเลย เราควรเชื่อใจว่าเขาเป็นคนรักสัตว์ บ้านเพื่อนของคุณ ไม่ได้เลี้ยง แมว และเราควรจะแนะนำวิธีการเลี้ยงโดยคราวๆ ให้เพื่อนของคุณรู้ เพราะเขา จะได้เลี้ยงเจ้าหนูของเรา อย่างถูกวิธี เช่น การกิน เรื่องน้ำ อากาศที่อยู่ และ ข้อห้ามต่างๆ ครับ อย่างเช่น เรื่องอากาศร้อน คนเลี้ยงควรเข้าใจว่า ถ้าอากาศร้อน จะทำให้หนูแฮมสเตอร์ตายได้ ไม่ควรให้หนูแฮมสเตอร์ ตากแดดวิธีที่ช่วยคลายร้อนให้หนูแฮมสเตอร์ ฟังๆไปแล้วอาจจะ ดูเหมือนเราจู้จี้ นะครับ แต่ถ้าทำได้ก็


ถ้าไม่ได้จริงๆต้องทิ้งไว้

ถ้าไม่สามารถนำหนูแฮมสเตอร์ไปกับคุณได้ และก็ไม่มีเพื่อนๆ ที่ไว้ใจได้ การปล่อยให้เขาอยู่ ก็สามารถทำได้ครับ เพียงแต่ว่า ถ้าคุณไปเป็นเวลา 2-3 วัน ก็จะดีกว่าไปเป็นอาทิตย์ อย่างแรกเลยก็ วางกรงเขาไว้ในที่ๆ อากาศไม่ร้อนหรือ ป้องกันเรื่องอากาศร้อนไปด้วยก็ดี โดย หาถ้วยดินเผาที่มีฝาปิด ใส่น้ำเย็นๆ ทิ้งไว้ในกรง เพราะว่า ถ้วยดินเผาสามารถเย็นได้โดยไม่ต้องเป็นน้ำแข็ง แต่ก็อาจจะไม่เย็นมาก แต่สามารถใช้ได้




เรื่อง อาหาร

เราควรให้อาหารเผื่อ ให้เขากินไว้ด้วยนะครับ หรือ อาจจะ ซื้ออาหารที่เป็น ก้อนๆ แท่งๆ มีขายที่ร้านขายหนู ทั่วไป หนะครับ ไม่ควรให้อาหารพวกอาหารสด อย่างเช่น ผักต่างๆเพราะว่า อาจจะทำให้ผักนั้นเน่าได้ ถ้าเกิดเจ้าหนูแฮมสเตอร์กินไม่หมด และเป็นสาเหตุของ ท้องเสีย ขนร่วง และอื่นๆอีกมากมาย



เรื่อง น้ำ

เราควรให้เน้ำเขาไว้เต็มกระบอก ไม่ควรใส่ถ้วยนะครับ ควรเลือกกระบอกน้ำที่ ไม่รั่ว และไหลตามปกติ นะครับ ทางที่ดีเรา ควรจะมีกระบอกน้ำ ไว้สัก 2 กรบอกนะครับ แขวน ไว้ในกรง เพราะว่าหน้าร้อนนี้หนูแฮมสเตอร์ กินน้ำเก่งมากครับ




เรื่อง ขี้เลื่อย

เราก็ ควรจะทำความสะอาด ก่อนไปครับ ไม่ควรใส่ขี้เลื่อยมากหรือน้อยจนเกินไป เพราะ การใส่เยอะเกินไปอาจจะทำให้หนู ร้อนได้




ป้องกันภัยอันตรายจากสัตว์ต่างๆ

ก่อนไป กรงควรจะปิดให้ดี หรือ ถ้าเป็นกระบะ ก็ควรหา ที่ปิดให้ดี กันสัตว์อื่นมาทำร้ายเขา ครับ และก็ช่วยป้องกัน เขาออกไปวิ่งข้างนอกอีกด้วย เพราะว่า ถ้าออกไปนอกกรง เขาจะไม่มีอาหารและ น้ำกิน เป็นแน่ๆครับ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ควรนึก ถึงป้องกันไว้ก่อนด้วยครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ป้องกันและทำ ตามได้ทั้งหมดนี้ หนูแฮมสเตอร์ ของเพื่อนๆ ก็สามารถอยู่ ด้วยตัวเองได้แล้ว






จะกลับบ้านและจะพาหนูแฮมสเตอร์ไปด้วย

ถ้าเพื่อนๆจะกลับบ้านและต้องการพาเจ้าหนูแฮมสเตอร์ไปด้วย ผมแนะนำว่า ควรกลับโดยรถส่วนตัวนะครับ ส่วนเรื่องรถทัวร์ หรือว่า รถไฟ ผมไม่แนะนำนะครับ เพราะว่าเสี่ยง ต่อการตาย หลายอย่าง

ถ้าเป็นรถของตัวเองแล้วละก็ เพื่อนๆ ก็ควรเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ ไปด้วยนะครับ ทั้งเรื่องน้ำ อาหาร ขี้เลื่อยสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเลยก็ เรื่องอากาศร้อน เหมือนเดิมครับ อย่างรถที่ไม่เปิดแอร์ ก็สามารถทำให้ หนูแฮมสเตอร์ตายได้เหมือนกันครับ





ถ้าหนูมีลูกด้วย แล้วต้องไม่อยู่


ถ้ามีลูกหนูด้วย แล้วเราฝากเพื่อนเลี้ยงก็ควรแนะนำให้เขารู้ว่าอย่าไปยุ่งกับลูกเขา ควรจะให้อาหาร น้ำ ไม่ต้องเปลี่ยนขี้เลื่อย จนกว่าลูกหนูลืมตานะครับ หรือถ้าเรา จะปล่อยเขาไว้ก็ต้องเพิ่มเรื่องอาหารเยอะๆ หน่อยนะครับ เพราะว่า หนูที่คลอดลูกหรือ ที่เลี้ยงลูกจะต้องการน้ำ และ อาหารมากขึ้นครับแล้ว ถ้าเพื่อนๆ พาไปทั้งครอบครัว ก็สามารถทำได้ครับ แต่ต้องระวังเรื่องของการกระทบกระเทือนครับ ถ้าเดินทางหลายวันก็ ก็อาจจะทำให้แม่หนูเครียดได้ครับ และก็เรื่อง อากาศร้อน อีกด้วยครับ ต้องระวังมากครับ ยังไงก็ของให้หนูๆ ของเพื่อนๆ อยู่รอดปลอดภัยในระหว่างที่เพื่อนๆ ไม่อยู่บ้านกันนะ


วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีจับหนูแฮมเตอร์ที่ดุ

ปัญหาอีกปัญหาหนึ่งสำหรับ คนเลี้ยงหนูสายพันธุ์ที่ดุ จะว่าไป บางคนอาจจะงงๆ ว่า ทำไมถึงเลี้ยงพันธุ์ ดุ เพราะว่าไม่สามารถจับเล่นได้ แต่ถ้าเรามาสังเกตุ แล้ว หนุแฮมสเตอร์สายพันธุ์แคมเบลนี้ เป็น สายพันธุ์ที่ดุ แต่ก็มีข้อดีอยู่ที่ว่า สีของเขาครับ เพราะว่าหนูสายพันธุ์นี้จะมีสีอยู่มากมาย และ ก็ สวย ด้วยสีสันอีกด้วย






การจับหนูแฮมสเตอร์ที่ดุนั้น อาจจะได้เลือด

สายพันธุ์นี้ ถ้าตัวไหน มีนิสัยที่ดุมากๆ หละก็ กัดนิ้ว ของเพื่อนๆ ติดขึ้นมาได้เลยครับ

รสชาติการถูกกัด บอกตรงๆ ครับ ปวด อยู่เหมือนกันครับ แต่ก็ใช่ว่าหนูพันธุ์นี้ จะดุไปหมดทุกตัวนะครับ

ซึ่ง มีหนูบางส่วน ที่เป็นสายพันธุ์ แคมเบล แต่ไม่ดุ






สาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ผู้เลี้ยงถูกกัด

เพื่อนๆ ที่เลี้ยงสายพันธุ์นี้อาจจะโดน กัด ในเวลาที่เปลี่ยนขี้เลื่อย หรือ เมื่อเขาหลุดออกมาแล้ว เราต้องการที่จะจับเขาเข้าไปในกรง หรือว่า จะเป็นการที่เราอยากจับเขามาเล่น ก็อาจจะ โดนซะก่อน



เราควรทำอย่างไร ถ้าต้องการเปลี่ยนขี้เลื่อย

การเปลี่ยนขี้เลื่อยนั้น ก็ต้องระวังหน่อย ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วหนูพวกนี้ ถ้าโดนจับ เขาจะกัด เพราะว่ากลัวเรานั้นจะไปทำร้ายเขา แต่ ถ้า ตราบใดที่เราสามารถจับเขาขึ้นมาเล่นอยู่บนมือได้แล้ว เรื่องของการกัดก็จะลดน้อยลงมาก หรือว่า จะไม่กัดเลยก็เป็นไปได้




ส่วนเรื่องการเปลี่ยนขี้เลื่อย

ถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากที่จะใช้มือจับ ก็อาจจะใช้พวก ถุงมือ จับแทนก็ได้ครับ หรือไม่ก็ลองเอากระบอกที่มีความลึกพอสมควร แต่ไม่ต้องมากนะครับ เอาไปวางไว้ในกรง แล้วอีกสักพัก ภารกิจการสำรวจสิ่งของที่มาใหม่ ของหนูแฮมสเตอร์ ก็จะเริ่มขึ้น โดยปกติแล้วเขาจะเดินเข้าไปในถ้วย กระบอก หรือว่า แก้ว ที่เราเอาไปวางไว้ แล้ว หลังจากนั้น เราก็รีบเอา ถ้วยขึ้น โดยการช้อนไม่ให้หนู ออกมาได้

การขยายพันธุ์





อายุที่เหมาะสมแก่การผสมพันธุ์


อายุที่เหมาะสมแก่การผสมพันธุ์ของแฮมสเตอร์คือประมาณ 3 เดือนขึ้นไป การจับคู่ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเพียงแต่นำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ใส่ไว้ในกรงเพาะพันธุ์ กลังจาดนั้นก็สังเกตว่าตัวเมียท้องหรือไม่โดยสังเกตจากท้องที่ขยายออกและถ้าใกล้คลอดแล้วอาจจะสังเกตเห็นหัวนมได้ถ้าเป็นไปได้ควรแยกแม่พันธุ์ทื่ท้องไว้ต่างหาก

การดูแลลูกหนู


หนูแฮมสเตอร์โดยปกติแล้วจะตกลูกครั้งละประมาณ 3-18 ตัว ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกาย ลูกหนูแรกเกิดจะตัวเล็กมา ผิวหนังสีชมพูไม่มีขน ลูกหนูจะกินนมแม่ตามธรรมชาติและค่อยๆพัฒนาร่างกายและอวัยวะต่างๆจนอายุประมาณ 2 สัปดาห์ก็พัฒนาเต็มที่ ระยะเลี้ยงลูกอ่อนควรมีอาหารและน้ำไม่ให้ขาดแคลน เพราะถ้าขาดอาหารหรือน้ำอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่หนูทำร้ายลูกหนูได้ เราจะหย่านมลูกหนูได้อายุประมาณ 1 เดือนขึ้นไปเมื่อลูกหนูกินอาหารและน้ำได้เองแล้ว ควรแยกตัวใหญ่ที่สุดก่อน ถ้าแยกแล้วก็ไม่ควรนำกลับมารวมกันอีกเพราะว่าจะทำให้แม่หนูทำร้ายลูกหนูได้

อายุขัยของหนูแฮมสเตอร์

หนูแฮมสเตอร์นั้นสามารถมีอายุขัยได้นานเท่าใหร่สำหรับหนูแฮมสนั้นจะสามารถมีอายุขัยได้นานถึง 3 ปี หรือ มากกว่านั้น ครับทั้งนี้จะไม่สามารถ กำหนดได้ชัดเจน เนื่องจากอยู่ที่การเลี้ยงดูของเจ้าของเองด้วยครับ
ซึ่งหนูแฮมสเตอร์ที่ ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี และได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างถูกวิธีก็จะมีอายุขัยได้นาน เลยทีเดียวครับ แต่ปัจจุบัน อายุของหนูแฮมสเตอร์อาจจะอยู่ที่ 2 – 3 ปีเท่านั้นอาจจะเป็นเพราะว่าผู้เลี้ยงนั้นเลี้ยงอย่างผิดวิธี หรือ ศึกษาวิธีการเลี้ยงมายังไม่ดีพอและขาดประสบการณ์ในการเลี้ยง ดังนั้น การศึกษา ข้อมูลการเลี้ยงดูก่อนที่ จะเลี้ยงจึงเป็นประโยชน์แก่ผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก




ปัจจัยหลักๆของการเลี้ยงดูการเลี้ยงดูหนูแฮมสเตอร์ให้มีอายุยืนยาวอยู่กับเราไปนานๆ ผู้เลี้ยงควรที่จะเข้าใจหลักการเลี้ยงดูเหล่านี้ครับ
1. อาหาร และ น้ำ : คือปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต น้ำสะอาด อาหารถูกหลักถูกประเภท2. อากาศ และ อุณหภูมิ : การเลี้ยงในที่ๆมีอาการพอเหมาะกับเจ้าหนูแฮมสเตอร์3. ให้ความรักและ เอาใจใส่4. ความปลอดภัย ต่อ ศัตรูที่จะมาทำร้ายเจ้าหนูแฮมสเตอร์5. ความปลอดภัยในที่อยู่อาศัย ลักษณะของกรงที่เป็นอันตรายต่อหนูแฮมสเตอร์6. การเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี7. การดูแลและป้องกันต่อโรค ต่างๆไม่ให้เกิดขึ้น8. การดูแลเมื่อ หนูแฮมสเตอร์มีโรคภัยไข้เจ็บ
สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงมักจะขาดหายไปในการดูแลหนูแฮมสเตอร์1. ขาดการศึกษาวิธีการเลี้ยง2. ความรักและการดูแลเอาใจใส่




สำหรับผู้เลี้ยงโดยทั่วไปแล้ว แรกๆอาจจะมีเวลาเล่นหรือดูแล แต่บางคนแล้วนั้น พอเลี้ยงไปนานๆ เกิดความเบื่อหนายในการเลี้ยงดูหรือ ไม่มีเวลาให้มากเพียงพอ อาจจะถึงกับไม่มีเวลาเลยก็ว่าได้ครับ สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหนูแฮมสเตอร์อยู่เหมือนกันครับซึ่งถ้าเปลียบหนูแฮมสเตอร์กับคนเขาก็ ต้องการความรักการดูแลเอาใจใส่ ต้องการเพื่อนเล่นเหมือนกัน

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีการเลือกซื้อ




ทางที่ดีก็เลี้ยง เป็นคู่เลยจะดีกว่าครับไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าคุณจะเลี้ยงก่อน 1 ตัว ผม ขอแนะนำให้เลี้ยงตัวผู้ครับ เพราะว่า ตัวผู้ส่วนมากจะรักเด็กครับ อิอิตอนเราซื้อตัวเมียมาให้มันจะได้ไม่เป็นปัญหา แล้วอีกอย่าง ถ้าตัวเมียตัวมันใหญ่กว่าตัวผู้นะ มันก็จะกัดกัน และก็จะผสมกันยากด้วยครับ






ส่วนที่ว่าเราจะเลือกซื้อกี่ตัวบางคนเขาก็อาจจะเลี้ยงแค่ตัวเดียว เพราะไม่อยากไห้มันมีลูก แต่บางคนเขาก็เลี้ยงเป็นคู่เพราะ ไม่อยากให้มันเหงา แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมาย มันอยู่ที่ว่าคุณสามารถ เลี้ยงมันได้ไหมเท่านั้นละครับซึ้งการเลี้ยงหลายตัวก็ต้องเสียค่าอาหาร เพิ่มขึ้นอีก
เและก็กรงอีกด้วย การเลี้ยงด้วยกัน ถ้าเลี้ยงด้วยกันหลายตัวละก็ ผม บอกได้เลยครับว่ามันจะต้องกัดกันแน่ๆครับ ซึ่งส่วนมาก ควรเลี้ยงมันไว้เป็นคู่นะครับ แต่ถ้าพูดถึงตอนเด็กๆ เราสามารถเลี้ยงมันรวมกันได้ในระยะแรก ประมาณ 1-2 เดือน แต่ถ้าจับมาเลี้ยงรวมกันตอนอายุ 2เดือนหรือเดือนกว่าๆก็อาจจะมีปัญหา เหมือนกันครับ มันอาจจะกัดกันได้ครับ









หนูที่เราซื้อมาอาจจะเป็นพี่นองกันได้ะครับ ถ้าสีและรวดรายคล้ายๆกันนะครับแพราะผมก็เป็นคนเลี้ยงหนูขายอยู่เวลาเอาไปขายเขาก็จะจับมารวมกันใช่ไหมครับ แล้วคราวนี้ก็อยูที่คนซื้อแล้วละครับ ว่าจะเลือกตัวใหนถ้าคุณเห็นอีกตัวสวย
และอีกตัวก็สวยเหมือนกัน นั่นละคับสองตัวนั้นอาจจะเป็นคลอกเดียวกันก็ได้ครับ คราวนี้ละ พี่กับน้องก็ผสมกันส่วนลูกออกมาก็แล้วแต่จะคิดครับการหลีกเลี้ยงนั้นทำได้ยากครับ เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าตัวไหน เป็นพี่น้องกันและเจ้าของร้านก็รับมาอีกทีก็ไม่รู้อีกงะว่าตัวไหนเป็นตัวไหน เรื่องนี้ก็แค่เอามาบอกกันให้รู้เฉยๆนะครับ ไว้ไปหาวิธีกันเองเพิ่มรูปภาพ

บ้านแฮมเตอร์



































































การดูเพศ



เพศเมีย




เพศผู้

ของเล่นหนูแฮมเตอร์